การอนุรักษ์แหล่งน้ำในชุมชน



แหล่งน้ำและป่าไม้เป็นของคู่กัน เนื่องจากความอุมสมบูรณ์ของป่าไม้และพืชพรรณหลากชนิดจะเป็นพื้นที่แฉะชื้นและมีน้ำซึ่งเป็นแหล่งอาศัย และแหล่งอาหารของสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่บนพื้นดินและสัตว์ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำ ลำธาร และผู้บริโภคที่อยู่เหนือกว่าผู้บริโภคอื่นๆทั้งหลายใมห่วงโซ่อาหารที่เข้ามาใช้ประโยชน์จากป่าไม้ก็คือมนุษย์นั่นเอง แต่ปัจจัยในการดำรงชีพของคนในชุมชนนั้นมิใช่แค่เพียงดินและน้ำ แต่มันรวมถึงที่อยู่อาศัยและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆอีกมากมายซึ่งส่วนใหญ่จะผูกโยงอยู่กับตัวเงินหรือแหล่งเงินทุนที่ดูเหมือนว่าจะเข้ามาให้บริการให้ความสะดวกแก่ใครก็ตามที่ต้องการสร้างความรุ่งเรืองหรือต้องการมีชีวิตที่สะดวกสบายมากขึ้นในสังคม ไม่เฉพาะคนในสังคมเมืองเท่านั้นแต่คนในชนบทมากรายเช่นกันที่ชีวิตติดแน่นอยู่กับระบบทุนนิยม

การแผ้วถางป่าเพื่อการเกษตร การทำสวน ทำไร่ของชาวบ้านนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์หายไป แต่ยังเทียบไม่ได้กับความเสียหายที่เกิดจากนายทุน เพราะนายทุนมีศักยภาพมากกว่าชาวบ้านในการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อสร้างผลผลิตป้อนเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรม ในขณะที่ชาวบ้านทั่วไปใช้พื้นที่ป่าในการดำรงชีวิตด้วยการทำสวนยางและสวนผลไม้ เพราะมันเป็นอาชีพที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน เพื่อเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัว
ปัจจุบันพื้นที่ป่าเหลือน้อยลงส่งผลให้แม่น้ำลำธาร และลำห้วยมีน้ำน้อยลงหรือหลายแห่งแห้งขอดกระทบต่อหลายชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าแล้ง อย่างไรก็ตามการรักษาป่าไม้และแหล่งน้ำ ในปัจจุบันทุกภาคส่วนได้เข้ามาให้ความสำคัญกันมากขึ้นครับ เช่น อบต. และชาวบ้าน เป็นต้น

ข้อคิด

การอนุรักษ์ คือ รักษาไว้ และใช้เท่าที่จำเป็น
เก็บไว้ให้ลูกหลานไทยรับเป็นมรดกสีเขียว

ไม่มีความคิดเห็น:

ขับเคลื่อนโดย Blogger.