สิบหกปีอ่าวมาหยาและเดอะบีช
เมื่อปี 2544 กรมอุทยานได้อนุญาตให้กองถ่ ายทำหนังฮอลลีวูด เข้าทำการถ่ายทำภาพยนต์ในพื้นที่ บริเวณอ่าวมาหยา ซึ่งชาวบ้านไม่ได้คัดค้านเกี่ ยวกับการถ่ายทำ แต่ชาวบ้านและองค์กรพั ฒนาเอกชนที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้ นที่ คัดค้านการปรับภูมิทัศน์บริ เวณชายหาด เนื่องจากกองถ่ายต้องมีการขุดพื้ นที่ชายหาดบางส่วนเพื่อปลูกต้ นมะพร้าวให้มีทิวทัศน์ตรงกั บสภาพแวดล้อมที่นักเขียนนวนิ ยายชาวอังกฤษได้บรรยายไว้ ดังนั้น การปรับภูมิทัศน์ดังกล่าวจึงเป็ นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้ อมของอ่าวมาหยาให้ต่ างออกไปจาดความเป็นจริง เยาวชนในท้องถิ่นออกมารณรงค์ต่ อต้านเพื่อให้ทางกรมอุ ทยานทบทวนการให้อนุญาตดังกล่าว แต่ดูเหมือนว่าการคัดค้ านของชาวบ้านในครั้งนั้นล้มเหลว ซึ่งทางค่ายหนัง Twenty Century Fox ยังคงสามารถกระทำการเหล่านั้นต่ อไปจนสำเร็จ แม้ว่าภาพที่ฉายออกมาในภาพยนต์ จะมีทิวทัศน์ที่สวยงามตาม plot ของเรื่อง แต่เนื้อหาทางสังคมนั้นก็ยั งคงเน้นการนำเสนอเกี่ยวกับเรื่ องเซ็กส์ เรื่องยาเสพติด และการคอร์รัปชั่นของข้ าราชการไทย ในส่วนของเนื้อหานั้น ดูจะบ่งบอกได้ถึงทัศนคติในเชิ งลบของคนตะวันตกที่มีต่อเอเซี ยและประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตามหนังก็ยังคงสะท้ อนมุมมองด้านปัญหาสังคมไทยบางประการที่ยังมีอยู่ทั้งในโลกมายาและโลกของความเป็นจริงนั่นคือ อำนาจทางการเมืองมักผูกโยงอยู่ กับอำนาจของกลุ่มทุนเสรีนิยม ซึ่งน้อยครั้งมากที่ชาวบ้ านจะสามารถคัดค้านและรั กษาประโยชน์ของชุมชนและของชาติ ได้ ดังนั้นบทความนี้เขียนขึ้นมาเพื่ ทบทวนและย้ำเตือนผู้มีอำนาจเซ็ นให้หันมาฟังเสียงและสนใจการมี ส่วนร่วมของประชาชนในท้องถิ่ นให้มากขึ้นอย่างที่ควรจะเป็ นครับ
อ่านเรื่องราวบทความเก่าจากคอลัมน์ในเว็บไซต์ของมุลนิธิสืบฯ สิบกว่าปีมาแล้วที่การเผชิญหน้าระหว่างชาวบ้านนักอนุรักษ์กับระบบทุนนิยมและข้าราชการบางกลุ่มที่เกี่ยวข้องในขณะนั้น (ดู Links บทความด้านล่าง)
ทำหนังไมว่าแต่อย่าทำลายธรรมชาติ
หนึ่งปีอ่าวมาหยาและเดอะบีช
อ่าวมาหยาติดหนึ่งในสถานที่
ไม่มีความคิดเห็น: