อาหารเช้ากับวิถีเมืองตรัง

ท่องเที่ยวและสัมผัสวิถีชีวิตของเมืองตรังกับอาหารเช้าคนทับเที่ยง

ตรังเป็นเมืองท่าสำคัญบนฝั่งทะเลอันดามันในอดีต นอกจากจะมีชายทะเลที่สวยงามแล้ว ยังเป็นแหล่งของอาหารอร่อยมากมาย ทั้งอาหารจีน อาหารใต้ อาหารทะเลและขนมมากมายที่นักชิมต้องห้ามพลาด 

ตัวเมืองตรังหรือที่คนตรังนิยมเรียกว่าทับเที่ยงเป็นแหล่งของอร่อยสารพัด วิถีการกินของคนที่นี่เริ่มขึ้นตั้งแต่เช้ามืด โดยมีกาแฟเป็นจุดนัดพบของชาวเมืองเพื่อมากินกาแฟแกล้มของอร่อยกับเพื่อนฝูง กินไปคุยไปเรื่องๆ ได้รสชาดสไตล์สภากาแฟ ย่านตลาดสดเทศบาลเป็นศูนย์กลางของเมืองตรังในยามเช้าผู้คนจะมาซื้อหาของกินกันคึกคัก มีหมูย่างวางขายกันเป็นตัวๆ และยังมีอาหารพื้นเมืองอร่อยๆมากมายให้เลือกซื้อหา สำหรับคนต่างถิ่นแล้วต้องมีอาหารหลายอย่างที่ดูแปลกตาน่าลิ้มลองอย่างแน่นอน ปกติแล้วร้านติ่มซำโดยทั่วไป เราจะต้องไปนั่งที่โต๊ะก่อน แล้วทางร้านจะนำติ่มซำไปเสิร์ฟที่โต๊ะให้เราเลือก แต่ว่าที่ร้านนี้ถ้าเราอยากทานติ่มซำหรืออาหารอื่นๆ ก็สามารถมาเลือกอาหารได้เลยก่อนไปนั่ง โดยให้เบอร์โต๊ะกับพนักงานร้านไว้ และทางร้านจะนำติ่มซำกับอาหารที่เราเลือกไว้ไปนึ่งก่อนที่จะนำไปเสิร์ฟถึงโต๊ะให้เรารับประทานกันสดๆร้อนๆเลยค่ะ เรียกได้ว่าฟินไปตามๆกัน

ร้านอาหารเช้าในตัวเมืองตรังมีมากมายค่ะ แต่จะขอแนะนำแค่สั้นๆ เช่น เรือนไทยติ่มซำ เตอรังติ่มซำ และเทียนหลงติ่มซำ เป็นต้น นอกจากติ่มซำแล้วยังมีเมนูอาหารเมืองทับเที่ยงอีกมากมายให้เลือกชิมค่ะ

อาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองตรัง

สูตรความอร่อยของหมูย่างเมืองตรังถูกสืบทอดมาจากสมัยราชวงศ์ถัง โดยชาวจีนกวางตุ้งเป็นคนนำเข้ามาที่เมืองตรังเมื่อราว 100ปีมาแล้ว ใช้หมูทั้งตัวหมักเครื่องพะโล้และน้ำผึ้ง แล้วจึงนำมาย่าง 2 ครั้งจนสุกได้ที่ หนังกรอบเป็นสีทอง เดิมนิยมใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้ในงานพิธีต่างๆ ก่อนจะกลายเป็นของกินประจำวันคู่กับโกปี๊อย่างทุกวันนี้ ติ่มซำ เป็นภาษาจีนกวางตุ้งหมายถึงของกินเรียกน้ำย่อย คนตรังมีคำเรียกอีกอย่างว่า แต่เตี้ยม เป็นภาษาจีนแต้จิ๋วหมายถึงของกินกับน้ำชา 

ตรังก็มีสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปตุกีส

นอกจากอิ่มกับอาหารเช้าแล้วคุณยังสามารถพบเห็นอาคารรูปทรงสวยงามรอบๆตลาดเมืองตรังได้อีกด้วย  ตรังเป็นเมืองท่าเก่าแก่ที่มีความสำคัญมานาน โดยมีการโยกย้ายที่ตั้งเมืองมาแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อพุทธศักราช 2458 ได้ย้ายมาตั้งที่ตำบลทับเที่ยงจนถึงปัจจุบัน ตัวเมืองตรังแห่งนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเมืองทับเที่ยง ในยุคเมื่อ 100 ปีที่แล้ว ทับเที่ยงถือเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญทางชายฝั่งทะเลอันดามัน ทุกวันนี้ร่องรอยความเจริญในอดีตของทับเที่ยงยังคงปรากฎให้เห็นอยู่ทั่วไปในเมืองในรูปแบบของอาคารพาณิชย์สไตล์ชิโน-โปรตุกีส(Chino-Portuguese)ที่นิยมกันในสมัยนั้น ซึ่งเป็นการผสมผสานศิลปะสถาปัตยกรรมแบบยุโรปและจีน ผ่านการติดต่อผสมผสานทางวัฒนธรรมจากคนจีนในปีนังและมะละกา สิงคโปร์ที่มีชาวตะวันตกเข้ามามีบทบาทอยู่ในขณะนั้น(พ.ศ.2054) สถาปัตยกรรมแบบผสมจีนยุโรปนี้แพร่กระจายมายังประเทศไทยประมาณปี พ.ศ..2444-2456 (ในสมัยรัชกาลที่ 5) ซึ่งปัจจุบันหากใครได้ไปเที่ยวในตัวเมือง(ในหลาด)ของจังหวัดตรัง พังงา ภูเก็ตและระนอง ก็สามารถพบเห็นตึก อาคารที่สวยงามเหล่านี้ได้ไม่ยาก

ในสมัยก่อนทับเที่ยงเป็นแหล่งพบปะของพ่อค้านานาชาติซึ่งนิยมเจรจาธุรกิจกันตามร้านอาหาร ในเมืองทับเที่ยงจึงมีร้านอาหารอร่อยๆมากมายไว้คอยบริการ และการกินอาหารนอกบ้านก็กลายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของชาวเมืองสืบมา [www.sbobett.com ผู้สนับสนุนบทความ] ในเมืองทับเที่ยงมีร้านกาแฟมากมาย ทั้งร้านเก่าดั้งเดิมและร้านรุ่นใหม่ร่วมสมัยให้เลือกนั่งจิบเครื่องดื่มได้หลายบรรยากาศตั้งแต่เช้าถึงค่ำ เป็นอีกรสชาดความอร่อยของจังหวัดตรัง ใครไปเที่ยวตรังก็ควรต้องออกไปสัมผัสบรรยากาศยามเช้าของคนตรังดูบ้าง แล้วคุณจะได้เพลิดเพลินกับวงสนทนาสภากาแฟและรสชาดอาหารประจำถิ่นที่อร่อยไปพร้อมกัน

เที่ยวเมื่องตรัง อาหารเช้าเรียบง่ายตามวิถีคนทับเที่ยง