ตรัง ก่อนตั้งเมืองควนธานี
เมืองตรังสมัยก่อนตั้งเมืองควนธานี
หลักฐานศิลาจารึกในวัดเสมาเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุวาชุมชนศรีวิชัยในแหลมมลายูมีความเจริญรุ่งเรืองในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๒ ถึงพุทธศตวรรษที่ ๑๘ และเมืองนครศรีธรรมราชนั้นมีกษัตริย์ปกครองมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๔ และกล่าวว่าเมืองนครศรีธรรมราชมีเมืองขึ้นอยู่ ๑๒ หัวเมือง (เมือง ๑๒ นักษัตร)และใช้รูปสัตว์ต่างๆเป็นตราประจำหัวเมือง โดยใช้ตราม้า(มะเมีย)เป็นตราประจำหัวเมืองตรัง จึงถือได้ว่าศิลาจารึกที่กล่าวถึงนี้เป็นการบันทึกด้วยลายลักษณ์อักษรชิ้น แรกของจังหวัดตรัง
ศาสตราจารย์ มานิต วัลลิโภดม ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และวรรณคดีไทยได้กล่าวไว้ในเอกสารเรื่อง”สภาพ ต่างๆของอาณาจักรในภาคใต้ของประเทศไทยก่อนอาณาจักรศรีวิชัยมีอำนาจ” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าก่อนการตั้งเมืองควนธานีมีหลักฐานว่าตรังเคยตั้งเป็น เมืองมาแล้วอย่างน้อย ๓ สมัย
สมัยที่ ๑ -ยุคที่ ๑ เหนือเขาปินะขึ้นไประยะหนึ่ง ริมแม่น้ำ (หมายถึงแม่น้ำตรัง – ผู้เขียน) ฝั่งตะวันออก มีปากคลองกะปงฝั่งตรงข้ามคลองกะปงเป็นบ้านหูหนาน เป็นที่ตั้งเมืองตรังครั้งแรก เรียกชื่อตามพื้นบ้านว่า “กรุงธานี” บริเวณนี้ถูกเกลื่อนทำเป็นสวนยางพาราเสียหมดแล้ว”อ่านต่อ ประวัติศาสตร์ตรัง ๓
สมัยที่ ๒- “ยุคที่ ๒ ย้ายมาตั้งอยู่ใกล้คลองลำภูรา เรียกกันว่าเมืองตรังคปุระหรือเมืองลำภูรา แถบ นี้มีภูเขาลูกหนึ่งชื่อเขาลำภูราในถ้ำมีรูปภาพเขียนสีเป็นลายวงๆ เคยพบเครื่องมือหินใหม่กับหม้อดินเผาสีดำชาวบ้านเรียกถ้ำนี้ว่าถ้ำตรา ถัดตัวเมืองลงมาเล็กน้อยมีหมู่บ้านอู่ตะเภาหรือทุ่งทัพเรือ เป็นที่ต่อเรือรบของเมืองตรังคปุระ อาจจะมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ – ๑๘ หรือสูงกว่านี้ก็ได้”
สมัยที่ ๓- “ยุคที่ ๓ ย้ายลงมาตั้งอยู่ข้างใต้หมู่บ้านอู่ตะเภา เรียกว่าเมืองตรังนาแขก อายุจะราวต้นสมัยกรุงศรีอยุธยา”เมืองตรังคปุระยุคที่ ๒ คิดระยะทางตามลำแม่น้ำ (แม่น้ำตรัง) อยู่เหนือเมืองตรังนาแขกยุคที่ ๓ ขึ้นไปประมาณ ๑๑– ๑๒ กิโลเมตร สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงกล่าวถึงลำน้ำตรังที่ตำบลท่าจีน ข้างใต้บ้านนาถ้ำและอยู่เหนือบ้านนาแขกเมือง พ.ศ.๒๔๔๔ ว่า“ถึงบ้านท่าจีน...พวกจีนฮกเกี้ยนอยู่ค้าขาย มีเรือเสาใบอย่างจีนใหญ่ๆ จอดอยู่ ๘ ลำ และมีอู่ต่อเรือชนิดนั้นที่นั้นอีก ๒ แห่ง กำลังต่อเรืออยู่ทั้ง ๒ อู่...”ข้อความนี้ชี้ให้เห็นว่า เมื่อ ๘๐ ปีมานี้เรือสำเภาจีนขนาดใหญ่ๆ ยังสามารถลอยลำอยู่ในแม่น้ำตรัง เลยตำบลนาแขกขึ้นไป ทั้งยังมีอู่ต่อเรือสำเภาอยู่ด้วย จากบ้านนาแขก บ้านนาถ้ำขึ้นไปอีก ๑๕ – ๑๖ กิโลเมตร ถึงบ้านเขาปินะกับบ้านปากคลองกะปง ฉะนั้นเมื่อเวลานานนับพันปีมาแล้วดูจะไม่มีปัญหา ถ้าจะพูดว่าน้ำทะเลย่อมจะขึ้นลึกเข้ามาในลำแม่น้ำตรังอีกมากมาย ช่วยให้เรือใบเดินสมุทรสามารถเข้าไปบรรทุกขนถ่ายสินค้าได้ถึงท่าเมืองตรัง กรุงธานียุคที่ ๑และอีกตอนหนึ่งกล่าวว่า“สองฝั่งลำน้ำ (หมายถึงลำน้ำตรัง – ผู้เขียน) มีเขาที่มีถ้ำเช่น เขาสมอ เขาลำภูลา เขาหาร เขาปินะ แต่ละถ้ำได้พบพระพิมพ์ดินดิบอายุพุทธศตวรรษที่ ๑๒ – ๑๓ กันมากมาย นับเป็นหลักฐานส่วนหนึ่งที่แสดงอายุของเมืองตรัง...”
ไม่มีความคิดเห็น: