เด็ก(สมัยก่อน)จ้าวคารม
คำร้อยแก้ว ร้อยกรองของเด็กสมัยก่อน
มีคำ วลีและประโยคกาพย์กลอนอย่างไม่เป็นทางการมากมายที่เด็กชนบททางภาคใต้บางพื้นที่มักนำมากล่าวกันในโอกาสต่างๆดังต่อไปนี้
"หมีควน ขวนหลังลาย ปะห้ามไว้ ว่าอย่าเล่นขวิดโยง" ใช้ล้อเพื่อนที่เล่นชิงช้าด้วยกันแล้วปล่อยให้เพื่อนตกลงจนต้องร้องไห้ (เด็กเกเรใช้กัน)
"ลมเอ๋ย ปิดประตูใส่หลัก พัดมานี่เอย" กล่าวคำนี้หลายๆรอบเพื่อให้ลมพัดแรงๆเข้ามาทำให้ดอกกระโดนที่อยู่บนกิ่งสูงๆหล่นลงมาใต้ต้น หรือใช้กล่าวตอนรอลูกละมุดหล่นลงใต้ต้นเมื่อลมพัด (เป็นการกล่าวเล่นๆเพื่อรอคอยบางอย่างที่ต้องการ และมีความสุขกับธรรมชาติรอบตัว)
"เด็กขี้ร้องมาร้องกลางนา ลมพัดมาถูกเด็กขี้ร้อง" และ "เด็กขี้ร้องมาร้องกลางเทือก ตาเหลือกๆกินเทือกพุงแวว" (ใช้ล้อเพื่อนให้โมโหเวลาเพื่อนล้มหรือเล่นกันแล้วพลาดล้ม:เด็กเกเรมักใช้กันเป็นการเยาะเย้ย)
"ใครเดินหน้าขี่ช้างมุงร่ม ใครเดินก้มนกขี้ใส่ ใครเดินหลังผีกอดคอ ...วิ่ง" (ใช้อยอกล้อกันให้กลัวแล้ววิ่งหนี เวลาเดินกันเป็นแถวตอนเรียงหนึ่งในพื้นที่แคบๆและเป็นทางเปลี่ยว) ทุกคนจะกลัวผีในจินตนาการแล้ววิ่งแย่งกันเบียดเพื่อนคนอื่นเพื่อไปเดินอยู่หน้าสุดของแถว
"ผีตายมาหลอกผีเป็น กูไม่ให้เห็นนะโมทายะ" ใช้กล่าวเมื่อไปในที่เปลี่ยว เด็กๆจะเชื่อว่าเป็นคำที่ทำให้ผีหนีไป
"หนึ่ง สอง สาม ปลาหลามกินคน สี่ ห้า หก คางคกไถนา เจ็ด แปด เก้า หนมเป้าไส้หมู " ใช้กล่าวเมื่อเก็บผลไม้ได้จำนวนไม่เท่ากัน หรือท่องจำตัวเลข หนึ่งถึงเก้า เพื่อแก้เหงาขณะเดินเล่นกับเพื่อนๆก่อนถึงจุดหมายปลายทาง
คำกล่าว คำเปรียบเปรยและกาพย์กลอนของเด็กชนบทสมัยก่อนนั้นยังมีอีกมากมาย ใครที่ยังจำเรื่องราวในอดีตได้แม่นยำ ก็อย่าลืมเขียนมาเล่าสู่กันฟังได้นะครับ โดยเฉพาะคนที่อยู่ในวัย 30+ ทั้งหลาย คงมีเรื่องราวน่ารักๆแบบนี้มากมาย อย่าลืมส่งอีเมลหรือสมัครสมาชิกและเข้ามาเล่าสู่กันฟังนะครับ